แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การใช้คำน่าสนใจ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การใช้คำน่าสนใจ แสดงบทความทั้งหมด

09 ธันวาคม, 2552

มันเริ่มขึ้นแล้ว

ดูข่าวเรื่องการประชุมเกี่ยวกับภูมิอากาศโลกที่จัดขึ้นที่โคเปนเฮเก้น เจอคำว่า underway ค่ะ underway เป็นคำใหม่สำหรับมาดามหลีค่ะ ก็ต้องให้ดิกชันนารีคุณผู้ชายขายาวช่วยไขข้อข้องใจ

underway แปลว่า happening now หรือ start เช่น

The project is already well underway.
ได้ความว่าโครงการนี้ได้เปิดไปแล้ว

We are always busy when the tourist season gets underway.
งานของเราจะยุ่งมากเสมอเมื่อเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว

อีกครั้งที่จะบอกว่าการเรียนภาษาต้องจดจำ
มาดามหลีจำได้แล้วล่ะว่า underway แปลว่า happening now หรือ start ค่ะ

21 พฤศจิกายน, 2552

ถูกผู้ป่วยสอนภาษาอังกฤษอีกแล้ว

มาดามหลีเพิ่งได้รับ message สั้น ๆ จากผู้ป่วยว่า

Sent my xrays and moulds yesterday by registered mail. Please look out for them.

อันที่จริงก็พอเดาออกว่าผู้ป่วยต้องการบอกว่า "ฉันส่งพัสดุลงทะเบียนมาแล้ว ดูให้ด้วยนะ" แต่มาดามหลีก็ยังงง ๆ กับคำว่า look out เอ๊ะ ๆ ไม่เคยคุ้น จึงไปแสวงหาจนได้ความว่า เค้าต้องเขียนต่อกันไปเลยกับคำว่า for ดังนี้

Look out for ..... แปลว่า เฝ้าระวัง

ประโยคที่มาดามหลีได้รับคือ look out for them ซึ่งคำว่า them ก็หมายถึงพัสดุที่เค้าส่งมานั่นเอง

และ look out หรือ look - out ยังเป็นคำนามได้ด้วย เวลาใช้ก็ต้องมีคำนำหน้านามเช่น a look out หรือ a look - out

wikipedia ให้ความหมายของคำว่า a look out ดังนี้
A look out is a person on a ship in charge of the observation of the sea for hazards, other ships, land, etc. Lookouts report anything they see and or hear.

มาดามหลีอ่านแล้วสรุปได้ว่า A look out ก็คือ ต้นหน นั่นเอง

และมาดามหลีก็ได้เรียนภาษาอังกฤษจากผู้ป่วยอีกแล้ว
เรียนแบบนี้จำแม่นมาก

จำและเข้าใจได้ดีกว่าครูคนใด ๆ สอนให้
ขอบคุณค่ะ ผู้ป่วยผู้มีพระคุณ
แล้วจะไปขอบคุณเค้าอีกครั้งในวันที่เค้ามาถึงโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตของเรา

19 พฤศจิกายน, 2552

"ท่ามกลาง" ความงุนงง

อ่านบทความเกี่ยวกับ Design Thinking เจอประโยค
There is a discussion going on amongst some of my colleagues about the merits of minimalism versus simplicity.

เป็นประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องของการออกแบบ
แต่ประเด็นที่หนาดำอยู่นั้นก็น่าสนใจ
amongst หรือ among ?

โดยทั่วไปเราจะเห็นการใช้คำนี้สะกดด้วย among มากกว่าใช่มั้ยครับ ไปหาในดิกฯ
among (อะมัง-) pre. amongst (อะมังซท-) pre. ในหมู่, ในจำนวน, ในระหว่าง, ในจำพวก

อีกแล้ว... มีสองอันให้เลือก แล้วเราจะเลือกใช้อันไหนอย่างไรดีครับ
ผู้รู้บอกว่า “Both are correct and mean the same, but among is more common.”

นั่นแสดงว่าคนที่ใช้ amongst เป็นคนไม่ common งั้นหรือครับ?
เค้าตอบมาเป็นภาษาปะกิต "Amongst does seem old-fashioned – but it’s still grammatically correct as an alternative to among. It’s up to you to select which you prefer!"

โอเค โอเค เข้าใจแล้ว มันอย่างนี้นี่เอง ถ้าหากในกรณีใช้ในการเขียนเรื่องแนวอภินิหาริย์ (ปลาบู่ทอง, เทพสังข์วาลย์) หรือนิยายอิงประวัติศาสตร์ เหมาะกับ amongst มากกว่า เช่น As Tarquin stood amongst the great trees of the dark forest… ส่วน among นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเขียนแนวใหม่ เชิงข่าวหรือสารคดีก็ควรเลือกใช้ among เช่น “If you’re among one of the biggest groups in society…” หรือ “Living among the Bush people taught me a lot…”

แต่อย่างไรก็ตาม ย้ำอีกครั้ง "... It's up to you to select which you prefer!" ครับ

17 พฤศจิกายน, 2552

ทำงานกันดีกว่า A day’s work

มารู้จักงานชนิดต่างๆ กันนะ

work นามนับไม่ได้ –งาน
Looking after children all day is hard work.

job นามนับได้—ชิ้นงาน งานเหมา งานจ้าง ภาระหน้าที่ งานปลีกย่อย
I have a few jobs to do in the house this morning.
Writing this report is going to be a long job.

task นามนับได้—งานหนัก ภาระหน้าที่
The police face a very difficult task dealing with the increase in violent crime.

chore นามนับได้—งานเล็กๆ น้อยๆ งานบ้าน งานประจำที่น่าเบื่อ
Don’t turn reading into a chore for your kids.
The household chores

assignment นามนับได้ ---หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การบ้าน
I have three assignments to do by the end of term.

project นามนับได้—โครงการ แผนการ โครงการวิจัย
My next project is painting the living room.

labour นามนับไม่ได้—แรงงาน งานอาชีพ
I was trained as a builder so I’m used to manual labour.

toil นับไม่ได้ เป็นภาษาทางการ—งานหนัก งานตรากตรำ
A lifetime of hard toil on the farm had made him look old and tired.

ถ้าสังเกตุจะเห็นว่าคำนามที่นำมาฝากกันวันนี้ไม่ได้ขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ นั่นเพราะว่าเป็นนามทั่วไป ไม่ใช่ชื่อเฉพาะ ถ้าไม่ได้ขึ้นต้นประโยคหรือถูกนำไปตั้งเป็นชื่อใครก็จะเขียนด้วยตัวธรรมดานะครับเจ้านาย

Weather (storms)

นอกจากฝนก็ยังมีพายุชนิดต่างๆ เรียกชื่อตามลักษณะ ภูมิภาค การก่อตัว ความรุนแรง บางอย่างบ้านเราก็ไม่มี แต่จำเป็นต้องรู้ไว้บ้างจะได้คุยกับเพื่อนต่างชาติได้นะ

cyclone/ typhoon เป็นลมพายุเขตร้อนที่มีความรุนแรง จะมีลมกระโชกแรง
cyclone พายุไซโคลนศูนย์กลางมีความกดดันบรรยากาศต่ำ เป็นพายุหมุนทวนเข็มนาฬิกา

(เหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นถึงขั้วโลกเหนือ) และหมุนตามเข็มนาฬิการ (ใต้เส้นศูนย์สูตรลง
ไปถึงขั้วโลกใต้)
typhoon ก็คือพายุไต้ฝุ่น ส่วนลักษณะต้องไปหากันเองบ้างแล้วนะ
hurricane พายุเฮอร์ริเคน เป็นพายุหมุนที่รุนแรงของเขตร้อน มีความเร็วตั้งแต่ 74 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นพายุที่
รุนแรงที่สุด มักก่อตัวในทะเล
monsoon มรสุม ลมที่เปลี่ยนทิศตามฤดู เกิดในบางภูมิภาคเท่านั้น
squall ลมพายุที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน (มักมีฝน หิมะ หรือลูกเห็บ)
tornado (twister ภาษาพูด) พายุหมุนหรือลมสลาตัน เกิดในทวีปอเมริกาและแอฟริกาเป็นพายุหมุน
รูปกรวยที่รุนแรงมาก ใครเคยดูหนัง Twister น่าจะพอจำได้ว่ามันรุนแรงขนาดไหน
whirlwind ลมวน มีกำลังรุนแรงเคลื่อนที่เร็วและรุนแรง สร้างความเสียหายมาก
blizzard พายุหิมะ (มีลมแรง)
tempest พายุ มักใช้ในภาษาเขียนหมายถึงพายุที่มีความรุนแรง

Weather (rain)

ภูเก็ตฝนตกบ่อยๆ มาดูกันว่าภาษาอังกฤษเค้าเรียกลักษณะอากาศกันว่าอย่างไรบ้าง
Drizzle ฝนประปราย ฝนพรำๆ
Shower ฝนปรอยๆ หรือหนักแต่ตกไม่นาน
Downpour/ cloudburst ฝนตกหนักแบบไม่มีเค้า, ฝนเทลงมาอย่างหนักและกระทันหัน, ฝนห่าใหญ่

ถ้าฝนตกหนักๆ เราอาจพูดว่า It is pouring. ก็ได้ ในภาษาพูดแบบ BrE จะบอกว่า It is bucketing down หรือ chucking it down ก็ได้ อาจพูดว่า The heavens opened. ก็ได้เหมือนกัน

16 พฤศจิกายน, 2552

De Facto

ส่วนใหญ่ถ้าคนไทยเราต้องตอบคำถามเำีกี่ยวกับสถานภาพสมรส หรือ Marital Status เป็นภาษาอังกฤษละก้อ เราก็จะตอบแค่ 2 อย่างคืะ
Single
ซึ่งหมายถึง โสด (สดซิง หรือป่าวนี่ไม่รู้นะคะ่) หรือ
Married
หมายถึง แต่งงานแล้ว (เอ๊ะแต่จดทะเบียนหรือป่าวอันนี้ไม่รู้จ้า)
แต่ดิฉันต้องแปลกใจที่ได้คำตอบจากลูกค้าชาวออสเตรเลียหลายๆ คน กับคำตอบเกี่ยวกับสถานภาพว่า
De facto หริอ pronoun ว่า (dee fak-toh) บ่อยมาก จึงต้องถาม อ. Goo ว่ามันแตกต่างอย่างไรกับ single และ Married
ซึ่งความหมายของ De facto คือ โดยพฤตินัย, ตามความจริง, โดยแท้จริง


1. in fact; in reality: Although his title was prime minister, he was de facto president of the country. Although the school was said to be open to all qualified students, it still practiced de facto segregation.

2. actually existing, esp. when without lawful authority

3. Australian. a person who lives in an intimate relationship with but is not married to a person of the opposite sex; lover


หรือสำหรับชาวออสเตรเลีย ก็คือ การอยู่ด้วยกันโดยพฤตินัยนั่นเองคร้าบ (ยังไม่ได้จดทะเบียน)

ใครใคร่อยู่สถานภาพไหน อันนี้ก็แล้วแต่ท่านนะคะ

ไม่..ไม่..ไม่..ไม่!!!!!!!

ไม่ได้เกิดอาการเพี้ยนหรือกลัวอะไรจนต้องลุกขึ้นมาร้อง ไม่ ไม่ ไม่ อย่างนี้ แต่หัวข้อที่จะพูดต่อไปนี้คือ การใช้คำว่า "ไม่" เพื่อแสดงการปฏิเสธในภาษาอังกฤษค่ะ

ในภาษาไทยเวลาที่เราจะแสดงประโยคปฏิเสธ เราแค่ใส่คำว่า "ไม่" เข้าไปก็เรียบร้อย จริงไหมคะ เช่น ไม่กิน ไม่นอน และอีกสารพัดไม่... แต่คำว่า "ไม่" ในภาษาอังกฤษมีหลายแบบค่ะ และที่เราคุ้นเคยกัยกันก็คือ not กับ no

เราใช้ no นำหน้าคำที่เป็นคำนาม ซึ่งก็คือคำที่เราใช้เรียกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ เช่น

ไม่มีเงิน no money
ไม่มีคน no people

แต่ถ้าเีราจะใช้คำว่า "ไม่" กับคำอื่นๆที่ไม่ใช่คำนาม เช่น คำกริยา หรือคำขยายประเภทต่างๆ เราต้องใช้คำว่า "not" แทนค่ะ เช่น

ไม่สวย not beautiful
ไม่ดี not good

(จะมีกรณียกเว้นคือ สำนวน It's no good แปลว่า ไม่มีประโยชน์)

15 พฤศจิกายน, 2552

many/ a lot of/ lots of

many ใช้กับคำนามนับได้เท่านั้น ใช้ในประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธเป็นหลัก
Do you go to many concerts?
How many people came to the meeting?


จะใช้ในประโยคบอกเล่าได้เมื่ออยู่หลัง so / as / too เช่น You made too many mistakes.

a lot of หรือ lots of เป็นวลีที่เป็นภาษาพูด แต่จะไม่ใช้ในการวัดระยะทาง หรือเวลา
I stayed in England many weeks. หรือ I stayed in England quite a few weeks. แต่จะไม่ใช้ว่า I stayed in England a lot of weeks.

เมื่อใช้ a lot of หรือ lots of ในความหมายว่า มาก (many) จะต้องใช้กับกริยา (verb) ที่เป็นพหูพจน์ เช่น
Lots of people like Italian food.

สำหรับภาษาเขียนให้ใช้ many หรือ a large number of แทนคำว่า a lot of หรือ lots of



much/ a lot of/ lots of

much ใช้กับคำนามนับไม่ได้เท่านั้น ส่วนมากใช้กับประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ
Do you have much free time?
How much experience have you had?

a lot หรือ lots of (ไม่เป็นทางการ) เป็นภาษาที่ใช้กันทั่วไป
How much (money) does she earn? “A lot!”
นอกจากนี้อาจใช้คำว่า plenty of ก็ได้ วลีนี้ใช้ได้ทั้งประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ
คำว่า a lot of หรือ lots of ยังคงให้ความรู้สึกเป็นภาษาพูดโดยเฉพาะกับคนอังกฤษ
ถ้าเราจะใช้ภาษาเขียนให้ใช้ much / a great deal of / a large amount of แทนจะดีกว่า

very much กับ a lot ใช้เป็นกริยาวิเศษณ์ (adverbs) ได้ เช่น
I miss my family very much. แต่ไม่ใช้ I miss very much my family.
Thanks a lot.
ในประโยคปฏิเสธเราใช้คำว่า much ได้ เช่น I didn’t enjoy the film (very) much.

14 พฤศจิกายน, 2552

ของเล่น Toys

มีของเล่นมาให้เลือกมากมาย ชอบใจชิ้นไหน อยากไปฝากใครก็มาเลือกดูกันเลย

Doll’s house (อังกฤษ)/ dollhouse (อเมริกัน) บ้านตุ๊กตา
Teddy bear (teddy อังกฤษ) ตุ๊กตาหมี
Soft toy (อังกฤษ) / stuffed animal (อเมริกัน) ตุ๊กตา
Video game วิดีโอเกม
Puzzle (อังกฤษ ใช้ว่า jigsaw / jigsaw puzzle) ภาพต่อ
Building blocks บล๊อกไม้ แท่งไม้ที่ใช้ต่อเป็นรูปร่างต่างๆ
Marbles ลูกหิน ลูกแก้ว
Skipping rope เชือกกระโดด
Water pistol (อังกฤษ) / watergun (อเมริกัน) ปืนฉีดน้ำ
Yo Yo โยโย่
Frisbee จานพลาสติกแบนๆ ที่ไว้เล่น โยน-รับ กันเช่น ที่ชายหาด
Skateboard สเกตบอร์ด
Rollerblade/ in-line skate โรลเลอร์เบลด
Kite ว่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก Oxford dictionary

เรื่องพื้นๆ

earth/ floor/ ground/ soil/ land ใช้คำไหนดี


ถ้าจะพูดถึงโลกของเรา ก็ใช้คำว่า earth
ส่วนพื้นผิวของโลกที่ไม่ใช่ทะเล และท้องฟ้าจะเรียกว่า earth / land หรือ ground ก็ได้
พื้นผิวถนน หรือทางเดิน ถ้าอยู่ข้างนอกเรียกว่า ground อยู่ข้างในอาคารเรียกว่า floor
พื้นที่ปลูกต้นไม้เรียกว่า soil / earth หรือ dirt
ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องพื้นๆ อีกแล้ว


ขอบคุณข้อมูลจาก Oxford dictionary

13 พฤศจิกายน, 2552

care for somebody / something

เช้านี้ต้องแปลงกายเป็นกูรูภาษาอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่
แล้วก็ได้ทบทวนว่าทำไมจึงมีแต่เพื่อน ๆ มาถามโน่น ถามนี่เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ
ในที่สุดก็มีคำตอบให้ตัวเอง เป็นคำตอบที่แอบเข้าข้างตัวเอง
ฉํนเป็นคนอยากรู้อยากเห็น หรือถ้าพูดให้เพราะ ๆ หน่อยก็คือใฝ่รู้
หลาย ๆ ครั้งไม่ได้รู้อะไรมากมายพอจะบอกใครเขาได้
แต่มันจุดประกายให้อยากรู้อยากเห็นน่ะ
เมื่ออยากก็ต้องหาคำตอบ
เมื่อได้คำตอบก็เอามาปันกัน
เลยดูเหมือนว่าเป็นกูรู

ดีนะ ไม่ได้เป็นกูรูตัวจริง
ขอเป็นแค่ดูเหมือนกูรูก็พอใจแล้ว อย่างน้อยก็มีคำว่ากูรู

คำถามสั้น ๆ ที่ถูกตะโกนถามจากคนที่รู้มากกว่า แต่ต้องการความมั่นใจ คือ
care for ใช่ไหม

ถูกต้องครับ ดิกชันนารี Longman บอกว่า
care ที่ตามด้วยคำว่า for
เวลาใช้ก็ care for somebody/something

มีความหมายเดียวกับคำว่า take care of
หรือถ้าแปลให้ยาวกว่านี้คือ look after someone who is not able to look after themselves

เป็นภาษาไทยก็คือ การดูแล เช่น

All staff at Bangkok Hospital Phuket care for all patients very well.
He thanked the nurses who had cared for him.
He thanked the nurses who had took care of him.
He thanked the nurses who had looked after him.

10 พฤศจิกายน, 2552

คู่สับสน คู่อลหม่าน House กับ Home เหมือนกันไหมเอ่ย???

เคยได้ยินไหมคะ ฝรั่งเขาบอกว่า

House is made of bricks and stones. But home is made of love alone
ซึ่งหมายความว่า house เขาหมายถึง บ้านที่สร้างจากก้อนอิฐและก้อนหิน ซึ่งก็หมายถึงตัวบ้านไงคะ
แต่คำว่า home เขาหมายถึง บ้านที่สร้างขึ้นมาด้วยความรักและความอบอุ่นเท่านั้น

ถ้าจะสรุปกันง่ายๆ ก็คือ ถ้าหมายถึงบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย ไว้หลบฝนหลบหนาว เขาใช้คำว่า house ค่ะ
แต่ถ้าหมายถึง บรรยากาศภายในบ้านที่มีแต่ความรักตามประสาคนโสด หรือความรักในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เราจะใช้คำว่า home แทนค่ะ


และถ้าเป็นในด้าน grammar เราใช้ house เมื่อเราต้องการนับจำนวนบ้าน ดังนั้น house จึงมักจะมีคำ article หรือคำบอกจำนวนนำหน้าเสมอ เช่น He has a house แต่เราจะไม่ใส่ article หรือคำบอกจำนวนนำหน้า home เช่น I stayed at home last night.

04 พฤศจิกายน, 2552

So far so good = โซฟาตัวนี้ดีจังเลย?

So far คงเคยเห็นหรือได้ยินคำนี้อยู่ในประโยคภาษาอังกฤษหรือเพลงดังๆ กันมาบ้างนะครับ ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ในความหมายตามตัว เหมือนเพลงของบอยด์ โกสิยะพงศ์ "ห่างไกลเหลือเกิน So far away" นั่นล่ะครับ

แต่ในประโยคสนทนานั้น ยังมีความหมายตามทำนองว่า จวบจนทุกวันนี้ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ จนบัดนี้

ตัวอย่างเช่น
So far he doesn't call. จนถึงเดี๋ยวนี้ เค้าก็ยังไม่โทรมา
So far, nothing unusual has happened! ก็ยังไม่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นเลยนะ

มักจะใช้ในประโยคเพื่ออธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีต ต่อเนื่องยืนนานมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

ดังนั้น So far so good จึงไม่ได้แปลว่า โซฟาตัวนี้ดีจังเลย แน่นอน วลีนี้แปลได้ทำนองที่ว่า ที่ผ่านมาก็ดีอยู่/ ไม่น่าเป็นห่วง (แต่จากนี้ไป ไม่แน่) หรือ ตอนนี้ใช้ได้ แต่ต้องรอดูก่อน ครับ

ลองดูในสถานการณ์จำลองนี้ครับ

ขับรถจากกทม.มาภูเก็ต กรมอุตุฯพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักระหว่างทาง พ่อเป็นห่วงเลยโทร.มือถือไปหาลูกถามว่า How is the weather? Any problems with the rain? ลูกตอบว่า So far so good. ตามบริบทนี้แปลได้ทำนองว่า ตอนนี้ดีไม่เป็นไร แต่ไม่แน่ว่าต่อไปจะมีฝนตกหนักหรือเปล่า

หากจะย้อนกลับไปอ่านสำนวนจากคำว่า So ก่อนหน้านี้เพิ่มเติมก็ได้ครับ คลิกที่นี่

20 ตุลาคม, 2552

Beforehand

สบายดีไหมคะ

สองสามวันก่อนมีเพื่อนที่ต้องทำสัญยิง สัญญาภาษาัอังกฤษโทร.มาถามว่า beforehand แปลว่าอะไร มาดามหลีเองเจอคำนี้จากผู้ป่วยอยู่บ่อย ๆ รู้แค่ว่าถ้าเจอคำนี้แล้วละก็หมายความว่า in advance หรือล่วงหน้า แต่ก็ไม่เคยเขียนประโยคใด ๆ ที่ใช้คำว่า beforehand เดือดร้อนล่ะสิคะ ต้องถามอาจารย์กูเกิ้ล กับคุณผู้ชายขายาว (longman dictionary) ได้ความว่า

- beforehand คือ การที่ต้องทำอะไรล่วงหน้าก่อนที่อีกเหตุการณ์หนึ่งจะเกิดขึ้น เช่น
For the meeting next week, you should make a report beforehand.

- beforehand ในความหมายว่าก่อนเวลา เช่น
She came an hour beforehand.

- beforehand ในความหมายว่าล่วงหน้า เช่น
You should make appointment beforehand

ขอบคุณ คุณเพื่อนผู้น่ารักค่ะ ที่ช่วยให้ได้คิดที่จะค้นหาวิธีใช้คำนี้ในประโยค ให้ได้มาแบ่งปันกัน

มีความสุขทุกคนค่ะ
มาดามหลี





15 ตุลาคม, 2552

I am after breast augmentation.

สวัสดีค่ะ

สัปดาห์นี้มาดามหลีได้รับอีเมลจากผู้ที่สนใจจะมาผ่าตัดเสริมเต้านม เค้าใช้คำว่า I am after breast augmentation around the end of December ค่ะ คราวนี้โชคดีหน่อยค่ะที่มาดามหลีเคยเห็นประโยคแบบนี้มาบ้าง ไม่ต้องเที่ยวไปตระเวณถามกูรูด้านภาษาอังกฤษ คำนี้แปลว่าต้องการค่ะ เช่น

I am after Chinese class. - ฉันต้องการหาที่เรียนภาษาจีน

หรือ to be after doing something เช่น I am after flying to ChiangMai around the end of November หมายถึงฉันต้องการจะบินไปเชียงใหม่ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน

พบกันใหม่คราวหน้าค่ะ
มาดามหลี

02 ตุลาคม, 2552

I will give you a ring

เปล่า มาดามหลีไม่ได้มีโครงการจะให้แหวนใคร
give a ring เป็นสำนวนแปลว่าการโทรศัพท์ไปหานั่นเอง

เมื่อมีลูกค้าโทร.มาสอบถามในเรื่องที่เรายังให้คำตอบไม่ได้ในทันที
เมื่อจะรับปากว่าเราจะโทร.กลับไปแจ้งเค้าเราอาจจะบอกว่า
I will call you back in a few minutes.
หรือ I will give you a call in a few minutes.
หรือ I will give you a ring in a vew minutes.

หรือเราอาจจะถูกลูกค้าขอร้องให้โทร.กลับ เช่น
Could you give me a ring and provide me with the detail about hip replacement?

27 กันยายน, 2552

Ms or Ms.

สวัสดีค่ะ

มีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่ดิฉันได้ลงท้ายชื่อตัวเองว่า Ms. ตลอดที่ตอบเมล์ลูกค้า ลูกค้าท่านนึงเป็นชาวต่างชาติ ได้เมล์กลับมาแจ้งด้วยความปรารถนาดีว่า Ms ไม่ต้องมีจุดตามหลัง ซึ่งด้วยความสงสัยจึงเปิดอาจารย์กูเกิลดู จึงได้รู้แจ้งว่าจริงๆ แล้วสามารถใช้ได้ทั้ง 2 อ
ย่าง คือ จะใช้ Ms. หรือ Ms เฉยๆ ไม่มีจุดตามหลังก็ได้ค๊า ดังข้อมูลจากท่าน วิคิพิเดียของเราบอกนะจ๊ะ

Ms (UK) or Ms. (USA) (pronounced /mɪz/ or /məz/[1]) is an English honorific used with the last name or full name of a woman. As with Mrs. and Miss, Ms. is a contraction of the honorific "Mistress", which is the feminine of "Mister" or "Master". According to The Emily Post Institute, Ms. is the default form of address for women, regardless of marital status, in the U.S.[2]

From Wikipedia, the free encyclopedia
แ่่ค่นี้่ก่อนนะค่ะ บ้าย บาย

23 กันยายน, 2552

ONO

ผมพยายามใช้กูเกิ้ล search หาความหมายของ ONO สิ่งที่ผมพบในขณะนี้คือ Organization of News Ombudsmen สิ่งที่เจอในบางกอกโพสต์อาจจะเป็นการบอกกล่าวว่าเค้าเป็นสมาชิกขององค์กรนี้ เข้าไปดูเว็บขององค์กรนี้ได้ครับผม ที่นี่เลยhttp://www.newsombudsmen.org

แล้วสิ่งที่ผมได้เพิ่มขึ้นคือความหมายของคำว่า ombudsmen ผมไม่เคยรู้จักคำนี้มาก่อนเลยก็ว่าได้
Longman บอกว่า มันเป็นคำนามนับได้ เอกพจน์ของคำนี้คือ ombudsman พหูพจน์คือ ombudsmen

ความหมายของคำนี้ที่ Longman ให้ไว้ก็ตามด้านล่างเลยครับ
someone who deals with complaints made by ordinary people against the government, banks, insurance companies etc

หมายเหตุ ผมยังจะค้นหาต่อไปว่า ONO จะมีความหมายอื่นใดอีกหรือไม่ พบกันตอนต่อไปครับผม